บ้านไฮตาก พักสายตา มองวิวเขา ชมแสงสวย

 

 

บ้านไฮตาก หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาหลังอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่ตั้งใจมาพักชมวิวทิวเขาสลับซ้อนสวยงามดุจภาพวาด แถมยังชมบรรยากาศได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก บ้านไฮตากมีที่พักในรูปแบบแคมป์ปิ้งและบ้านพักให้บริการหลายแห่ง  ที่พักแต่ละแห่งสามารถชมวิวของภูเขาได้แบบพาโนรามา ยามเย็นชมแสงทไวไลท์หลากสีและพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า เช้าตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกที่มาทักทาย มาที่นี่ได้เต็มอิ่มครบทุกบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติ

 

 

จุดชมวิวบ้านไฮตาก

บ้านไฮตากตั้งอยู่ในอำเภอภูเรือ แต่อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติภูเรือพอสมควร เพราะอยู่ด้านหลังภูเขาของภูเรือ ซึ่งอยู่คนละฝั่งกัน ระยะทางห่างกันประมาณ 27 กม เมื่อมาถึงถนนสายหลักเลย-ภูเรือ จะมีทางแยกออกไปยังบ้านไฮตากมีป้ายบอกโดดเด่นชัดเจน เส้นทางไปจนถึงบ้านไฮตากเป็นถนนราดยางอย่างดี มีโค้งบ้างแต่ไม่ชัน เรามาถึงจุดหมายแรกที่บ้านไฮตาก คือ จุดชมวิวบ้านไฮตากซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สูงสุด จะเจอกับป้ายชื่อบ้านไฮตากใหญ่ยักษ์ และร้านขายผักเล็กๆของชาวบ้าน

 

 

บริเวณจุดชมวิวมีการจัดทำพื้นที่เป็นระเบียงสี่เหลี่ยม ให้ยืนถ่ายภาพชมวิวประมาณ 3 จุด ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาบ่ายโมงกว่าที่แดดแรงมาก แต่มาเที่ยวช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นสบายมีลมพัดเข้ามาตลอด

 

 

ที่พักในภาพ คือ ไฮตากแคมปิ้ง วิวดีมองเห็นวิวเขาสวยงามซ้อนกันเป็นเลเยอร์แบบชัดเจน  นอกจากที่พักในรูปแบบเต้นท์แล้ว ยังมีบ้านพักหลังใหญ่หลังคาทรงสามเหลี่ยมเป็นแบบห้องแอร์ให้พักด้วย หลังนี้พักได้ 4 คน ราคา 2500 บาท ห้องน้ำในตัว และเนื่องจากตั้งอยู่บนจุดชมวิวสูงสุด จึงเป็นที่พักที่วิวดีอีกแห่งหนึ่ง สวยงามแบบไม่มีอะไรมาบัง แถมยังมีบ้านที่ค่อนข้างสะดวก  สำหรับใครสนใจจองห้องพักสามารถติดต่อได้ที่เพจของ ไฮตากแคมปิ้ง

 

 

Coffee de hitak 

ติดกับจุดชมวิว คือ  Coffee de hitak คาเฟ่เพียงร้านเดียวในบ้านไฮตาก เป็นแบบบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง เปิดโล่งชมวิว บริเวณด้านหน้าประดับด้วยขวดน้ำเต้า และโมบายแขวนในสไตล์ล้านนา สีสันสดใสปลิวไหวรับลมเย็น นอกจากเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังให้บริการในส่วนของที่พักในรูปเต้นท์แคมป์ปิ้งด้วย ทั้งแบบเต้นท์ที่มีห้องน้ำในตัว และห้องน้ำรวม วิวสวยแน่นอนเพราะตั้งอยู่บนจุดชมวิวสูงสุด ราคาเริ่มต้นที่สอบถาม คือ หลังละ 1200- 1500 บาท สำหรับใครสนใจ สามารถจองที่พักโดยติดต่อกับทางเพจของร้านค่ะ

 

 

เครื่องดื่มมีไม่มาก ทั้งกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ สั่งน้ำผึ้งมะนาวมาทาน รสชาติดีสั่งเบิ้ลไป 2 รอบ  ส่วนขนม คือ ขนมแบบใส่ถุงทานเล่น ระเบียงนั่งชมวิวของร้าน สามารถชมวิวของภูเขาเขียวเรียงรายสลับซับซ้อน

 

 

จากร้านกาแฟ มองเห็นที่พักในบ้านไฮตาก ที่อยู่ข้างล่างหลายแห่ง เต้นท์สีขาวมีหลังคา คือ ภูไฮตากโฮมสเตย์ และยังมีอีกหลายแห่ง เช่น  ลานพันดาว  ลาคำวัน  เสวนาริมเขา ริมธารโฮมสเตย์ ที่พักไฮตากส่วนใหญ่ ตั้งเรียงรายติดกันอยู่ข้างล่างตามภาพ ส่วนบนจุดชมวิวสูงสุด มี ที่พักเพียง 2 แห่ง คือ  Coffee de hitak  และ ไฮตากแคมป์ปิ้ง

 

 

ครัวลาคำวัน

จากจุดชมวิวสูงสุด มาถึงช่วงบ่ายสามยังไม่ได้เข้าที่พักเพราะที่พักเราเป็นแบบเต้นท์ แดดยังแรง อากาศในเต้นท์น่าจะอบอ้าวพอสมควร แวะมานั่งทานอาหาร ณ ร้านอาหารเพียงหนึ่งเดียวที่บ้านไฮตาก  ครัวลาคำวัน  ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ลานพันดาว ที่พักของเรา นั่งทานรอเวลาไปค่ะ ร้านวิวดีมากมองเห็นภูเขาสวยงาม ถึงแม้ยังมีแสงแดด แต่ในช่วงฤดูหนาว บ้านไฮตากอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน 

 

 

ครัวลาคำวัน มีที่พักให้บริการ ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ชื่อเดียวกับร้าน คือ ลาคำวัน ให้บริการที่พักแบบบ้านและลานกางเต้นท์ วิวดีมากอีกแห่งหนึ่ง ในภาพ คือ บ้านหลังเล็กราคาคืนละ 1500 บาท พร้อมอาหารเช้า มีห้องน้ำในตัว ตกแต่งได้เข้ากับธรรมชาติ และค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูฝนคงจะได้เห็นหมอกแบบเต็มๆ

 

 

ส่วนสายชอบแคมปิ้ง ยังมีลานกางเต้นท์ ตั้งอยู่ด้านล่าง วิวดีเช่นกัน  สำหรับใครสนใจจองห้องพัก สามารถติดต่อได้ที่เพจของ ลาคำวัน 

 

 

ลานพันดาว แคมป์ปิ้ง

ที่พักบ้านไฮตากมีหลายแห่ง แต่เราเลือกพักที่  ลานพันดาวแคมป์ปิ้ง ด้วยเหตุผล คือ ชอบในการตกแต่ง ทั้งการจัดวางพรอพที่น่ารักจัดเต็ม ถูกใจสายชอบถ่ายภาพแบบเรา  ทั้งเต้นท์ อุปกรณ์แคมปปิ้งที่เลือกใช้แบรนด์อย่างดี อยากพักฟีลแคมป์แต่ไม่อยากขนสัมภาระ กางเต้นท์ เตรียมของให้เหนื่อย แค่หิ้วกระเป๋ามาที่ ลานพันดาว เพราะที่พักจัดมาให้ทั้งหมดแล้ว และที่ชอบอีกอย่าง คือ เจ้าของที่พักใส่ใจลูกค้า ตอบข้อความอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องรอนาน

 

 

ลานพันดาวแคมป์ปิ้ง เป็นที่พักในรูปแบบลานเต้นท์แคมป์ปิ้งขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ให้บริการทั้งหมด 4 เต้นท์ ในดีไซน์เต้นท์ที่แตกต่างกัน ทั้งแบบเต้นท์กระโจม เต้นท์สี่เหลี่ยม ในภาพ คือ 2 เต้นท์ ที่อยู่ข้างล่างเป็นแบบเต้นท์ทรงสี่เหลี่ยมและกระโจม มีพื้นที่นั่งส่วนกลาง ส่วนอีก 2 เต้นท์ จะตั้งอยู่ข้างบน แต่ละเต้นท์มีอุปกรณ์ที่สายแคมปปิ้งต้องมี ทั้งที่นอน โต๊ะนั่ง ปลั๊กไฟ พัดลม และชุดโต๊ะเก้าอี้ สำหรับนั่งเล่นรับประทานอาหาร ส่วนห้องน้ำเป็นแบบห้องน้ำรวม จำนวน 2 ห้อง  แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น มาในช่วงฤดูหนาวเวลาอาบน้ำมีสะท้านนิดๆ

 

 

เราพักเต้นท์ B เคียงเดือน  เป็นเต้นท์ทรงกระโจม ภายในเต้นท์มีที่นอน โซฟาขนาดเล็ก พัดลม ผ้าปูตกแต่งแบบโบฮิเมี่ยน ปลั๊กไฟสามตา เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องไฟฟ้าแต่อย่างใด  ส่วนอากาศ แนะนำให้เข้าที่พักหลังสี่โมงไปแล้ว อากาศจะเริ่มเย็นลง แต่ช่วงค่ำหนาวมากแบบไม่ต้องเปิดพัดลม 

 

 

ต้องยอมในความพรอพที่แน่นมาก ทั้งชุดโต๊ะเก้าอี้ ที่วางของ แจกันดอกไม้ หยิบมาถ่ายรูปได้ทั้งหมด และมีให้ทุกเต้นท์แยกกันเลยค่ะ 

 

 

ที่นั่งเล่นส่วนกลาง ตกแต่งแบบแคมป์ปิ้ง สามารถมานั่งเล่น ถ่ายรูป หามุมสวยๆได้อีกหนึ่งมุม ถึงแม้จะเป็นลานแคมปิ้งขนาดเล็ก แต่มุมถ่ายรูปเพียบ

 

 

ยามเย็นขับรถขึ้นมาที่ จุดชมวิวบ้านไฮตากอีกรอบ จากที่พักไม่ถึง 3 นาที ใกล้แบบตาเห็นค่ะ แสงเย็นในช่วงฤดูหนาวสวยงามและอบอุ่น ลำแสงอาทิตย์ส่องกระทบกับทิวเขาและดอกหญ้าพริ้วไหว ช่วงเวลานี้ นักท่องเที่ยวจะเริ่มมาเก็บภาพ ณ​ จุดชมวิวสูงสุด เพราะแดดไม่แรง อากาศเย็นสบาย

 

 

ภาพแรก คือ บ้านพักของไฮตากแคมปิ้ง ภาพถัดมา คือ  เต้นท์ของ Coffee de hitak  ตั้งอยู่ติดกัน จนอาจสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นที่พักเจ้าเดียวกัน แต่คนละที่

 

 

เดินมานั่งเล่นที่ร้านกาแฟ coffee de hitak บรรยากาศยามเย็น แสงอุ่นละมุน สั่งน้ำผึ้งมะนาว มานั่งจิบชมวิวอีกซักแก้ว 

 

 

อาหารมื้อเย็นจะเตรียมมาเอง หรือสั่งหมูกระทะกับทางที่พักได้ค่ะ หมูกระทะอร่อย เนื้อหมูนุ่ม น้ำจิ้มเด็ดมาก  ทราบมาว่าสั่งจากร้านดังในจังหวัดเลยมาเสิร์ฟ และถ้าบอกราคาคงต้องตกใจชุดละ 190 บาท ปริมาณเยอะทั้งเนื้อสัตว์ หมู ตับ ปลาหมึก และผัก แถมน้ำจิ้มมาอีก 2 ขวด และน้ำซุปถุงใหญ่ ซึ่งหากไม่มีเตาปิคนิค จาน ชาม ช้อน มาเอง สามารถเช่ากับที่พักได้ ชุดละ 150 บาท สำหรับหมูกระทะก่อนเข้าพักให้สั่งล่วงหน้า ถ้าไปสั่งในวันเข้าพักจะไม่ได้ทาน เพราะสั่งตรงมาจากตัวเมืองเลยค่ะ  

 

 

ตกคำ่ นั่งชิว จิบบรรยากาศตามระเบียบ มาเที่ยวช่วงฤดูหนาวอากาศหนาวมาก เตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อม

 

 

แถมยังมีมุมน่ารักที่นั่งดูหนัง  ฟังเพลง ตามเทรนแคมป์ปิ้ง ในภาพคือ น้องเจ้าของที่พัก ซึ่งน้องทำงานประจำด้วย  หลังเลิกงานช่วงเย็นมาดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เก่งมาก อายุยังน้อย สุภาพอ่อนน้อม และมีไอเดียดีๆมากมาย 

 

 

ยามเข้าขึ้นมาชมวิวบ้านไฮตาก ถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูฝน ก.ย-ต.ค. หรือปลายฝนต้นหนาวในเดือย พ.ย.​ บริเวณจุดชมวิว มีโอกาสเห็นทะเลหมอกเยอะแบบสวยงาม แต่ถ้าเป็นช่วงหนาวหรือฤดูร้อน จะแห้งแล้งตามระเบียบ แต่ได้แสงสวยและบรรยากาศเย็นของฤดูหนาวมาทดแทน

 

 

นั่งจิบกาแฟดริปมองวิวทิวเขาที่อยู่ตรงหน้า  มีสายหมอกบางลอยคลอเคล้าภูเขาให้พอชื่นใจบ้าง เป็นความสุขและความอบอุ่นในยามเช้า

 

 

จากนั้นกลับมายังที่พัก ลานพันดาว เพื่อรับประทานอาหารเช้า อาหารเช้าทางที่พักจัดเตรียมให้ผู้เข้าพักได้ทำอาหารเอง ทั้ง ไข่ไ??